วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

นำเที่ยววัดบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา



นำเที่ยววัดบางเหรียง วัดราษฎร์อุปถัมภ์ พระครูพิศาล ปุรินทโก
ศิลปล้ำค่าทางสถาปัตยกรรม
......................................................................

วัดบางเหรียงเพียงชื่อเลื่องลือไกล ยิ่งได้ไปได้เห็นเป็นบุญตา
ช่างล่ำเลิศเพริดพริ้งสุดพรรณนา ผมจะพาเพื่อนพ้องพี่น้องไป


กางแผนที่ออกดูรู้สถาน ที่ว่าการอำเภออยู่ที่ไหน
จากตลาดทับปุดเพียงอึดใจ เลี้ยวซ้ายไปปากทางข้างอำเภอ

เพชรเกษมทางหลวงหมายเลขสี่ ตามแผนที่เลี้ยวซ้ายอย่าพลั้งเผลอ
สี่หนึ่งหนึ่งแปดหมายได้เจอะเจอ สบายเธอลาดยางเส้นทางธรรม

เห็นป้ายเจดีย์พุทธธรรมบันลือ อีกหนึ่งชื่อวัดราษฎร์อุปถัมภ์
วัดบางเหรียงเสียงเรียกจนติดจำ ช่างสวยล้ำคำกล่าวที่เล่าลือ

จากปากทางเข้าไปไม่ไกลนัก นับที่หลักกิโลฯ พอเชื่อถือ
สิบกิโลเมตรหรือไม่ครามือ เคยฝึกปรือขับบ่อยเป็นร้อยพัน
บนถนนลาดยางทางสะอาด ดุจภาพวาดแมกไม้ใช่แสร้งสรรค์
สีสวยสดต้องแสงแห่งนิรันดร หลากหลายพันธ์ขึ้นแข่งแย่งกันโชว์
สองข้างทางผ่านมาดูคราคร่ำ บ้างสูงต่ำเล็กใหญ่มากอักโข
ต่างสร้างแช่งแย่งกันลั่นคุยโว ทำใหญ่โตเห็นอยู่ค่ายายตา

สิบกิโลพอดีถึงที่วัด เลขถนัดหน้ารถหมดปัญญา
บ้านบางเหรียงหมู่สี่ที่ฉันมา เดิมเรียกว่า วัดลุ่ม แต่ก่อนกาล
พระอาจารย์แดง สินสุวรรณโน อักโขท่านสร้างศาสน์สถาน
ท่านเรียกหลวงปู่พรมว่าอาจารย์ ด้วยว่าท่านเป็นศิษย์หลวงปู่พรม
จากสองพันสี่ร้อยห้าสิบสาม จนถึงยามเปลี่ยนนามให้เหมาะสม
ตามชื่อบ้านบางเหรียงเพียงนิยม ต่างชื่นชมเรียกขายแต่นั้นมา
เมื่อสองพันสี่ร้อยแปดสิบหก กลับผันผกเปลี่ยนชื่อให้หรูหรา
วัดบางเหรียงไกลโพ้นเชยหนักหนา ต้องเปลี่ยนว่าวัดราษฎร์อุปถัมภ์
สิ่งที่กล่าวเล่าเรื่องเนื่องกาลก่อน อตอกย้อนเรื่องราวใช่เรื่องขำ
การเปลี่ยนชื่อขึ้นอยู่ที่ผู้นำ บุญหรือกรรมใช่อยู่ผู้ทำนาย

ฉันก้าวลงจากรถใจจดจ่อ หวังแตกหน่อถ้อยคำนำขยาย
สิ่งที่เห็นด้วยตามาบรรยาย ด้วยมาดหมายถ้อยคำลำนำกลอน
สถาปัตยกรรมล้ำจัด ต่างแงะงัดออกโชว์สโมสร
เพื่อตอกย้ำความหมายให้ถาวร อนาทรจิตใจยิ่งไกลโก
เข้าปล่อยทุกข์ห้องน้ำยังจำได้ มันเสียใจไม่ต่างคนโมโห
เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ใช่พาโล มันช่างโซชั่วช้าเยี่ยงกาลี
ทางวัดสร้างเอาไว้ให้ขัดล้าง มีหรืออย่างเปิดไว้ไม่บัดสี
ใจมันทรามทำได้อ้ายอัปรีย์ คนเยี่ยงนี้เกิดแข่งแย่งทางธรรม
ฉันงุนงงสงสัยในสิ่งสร้าง แต่ละอย่างสดสวยหลากสิ่งสรรค์
อุโบสถหลังใหญ่สร้างใกล้กัน แต่หลังนั้นเสาเอนไม่ตั้งตรง

ฉันสืบสาวราวเรื่องหลากหลายสิ่ง ความเป็นจริงเพียงแค่ความประสงค์
ความแตกต่างแหวกแนวเจตจำนง อย่าสืบองค์เที่ยวหานินทาใคร
ความกว้างใหญ่ในวัดสงัดเงียบ หากจะเปรียบเหมือนไร้ผู้อาศัย
สิ่งก่อสร้างตกแต่งแสร้งโยงใย เหมือนจงใจสร้างแต่งเพื่อแข่งโชว์

หลากหลายสิ่งในวัดจัดว่าสวย เพราะกุศลดลช่วยจึงสุขโข
ก้มลงกราบองค์พระท่องนะโม หลวงพ่อโตได้โปรดช่วยดลใจ
สมองคิดอย่าได้ติดข้องขัด สารพัดพรั่งพรูตรูหลั่งไหล
สำนวนกลอนตอกย้ำสมดั่งใจ ให้เป็นไปเหมือนเช่นเคยเห็นมา

สุพรรณหงส์สร้างไว้แสนใหญ่โต สร้างไว้โชว์มุมถ่ายยากจะหา
อีกขยะมากมายเกลื่อนนัยตา มิสมค่าคู่ควรล้วนบังเอิญ


ฉันก้าวขึ้นลำเรือสุพรรณหงส์ ยังงุนงงเป้าหมายให้ขวยเขิน
อุโบสถหลังน้อยช่างสวยเกิน ดูแล้วเพลินเย็นตาพาเย็นใจ
ฉันตัดใจย่างเท้าก้าวขึ้นรถ ใจจ่อจดอยากเห็นเป็นไหนไหน
ฟังเขากล่าวเล่าบอกหลอกหรือใย ยากจะให้ได้เห็นความเป็นจริง
เลี้ยวรถผ่านหมู่บ้านในเขตวัด ยิ่งแน่ชัดศรัทธาเสียทุกสิ่ง
ชาวบ้านเขตวัดนี้เขาดีจริง ศรัทธายิ่งรู้ซึ้งความเป็นไป

ขึ้นทางชันสันโค้งโก่งเขาล้าน ต้องเหยียบก้านมันมิดกว่ารถไหล
สองข้างทางผ่านป่าผ่าพงไพร มิตั้งใจจ่อจิตคิดคืนคำ

ทางพักรถเลี้ยวซ้ายมิไกลวัด สามกษัตริย์ยืนตรงจ้องจดจำ
พระร่วงเจ้าดุจเทพพระทรงธรรม ช่วยโน้มนำเข้าสู่ประตูชัย

บนยอดเขาปรับดินเป็นลานกว้าง อาคารตั้งตรงหน้าศาลาไทย
มหาธาตุเจดีย์อยู่ไม่ไกล ประดิษฐ์ไว้เด่นชัดถนัดตา

อลังการพุทธธรรมบันลือ แค่เพียงชื่อเลื่องลือไกลหนักหนา
สง่างามเพริดพริ้งยิ่งพรรณนา หรือแว่นฟ้าแห่งเมืองเทพนิยาย

ฉันตะลึงพรึงเพลิดมินานนัก กว่าตั้งหลักคว้าใจที่ไกลหาย
กว่าจะหวนคืนหลังมาตั้งกาย ไม่เสียดายทับปุดรุดหน้าไกล

วัดบางเหรียงวัดราษฎรอุปถัมภ์ เลิศเลอธรรมล้ำค่าป่าพงไพร
แสงพระธรรมสาดส่องต้องสายใย มีเพียงใจใคร่คล้องต้องแสงธรรม

มนุษย์เราเดี๋ยวนี้ผู้ดีมาก แต่หายากเข้าวัดคิดแล้วขำ
ส่วนเข้าบ่อนเข้าบาร์เฮโลนำ เข้าห้างจำเมาแอ้แม้นั่งยืน

พญานาคห้าหัวลำตัวติด เกล็ดแนบชิดทอดหางปากทางขึ้น
เฝ้าพระธาตุมิเว้นทุกวันคืน หลับหรือตื่นทอดตัวชั่วตาปี

ก้มลงกราบพระพุทธสุดประเสริฐ เลอเลิศแผ่นฟ้ามาประสาน
เหลืองอร่ามงามด้วยทองตระการ พุทธยานนอบน้อมล้อมพงไพร

พระครูพิศาลปุรินทโก ยังตั้งโชว์เรียกท่านอาจารย์ชัย
พระผู้สร้างมหาธาตุยิ่งใหญ่ หมอบกราบไหว้หวังพึ่งบารมี

ชื่อสมชัย แก้วมา เกิดทุ่งสูง ผู้หมายมุ่งศึกษาธรรมบาลี
พระอาจารย์จำเนียรจากกระบี่ พระผู้ที่สอนฝึกศึกษาธรรม
การศึกษาบรรลุตามเป้าหมาย สิ่งเวียนว่ายตายเกิดกฎเกณฑ์กรรม
ทุกข์ทั้งหลายเกิดแต่เหตุโน้มนำ คิดค้นคำหาเหตุแห่งเพทภัย

ลองเสี่ยงทายเซียมซีที่วางไว้ ด้วยหวังให้สำเร็จมิสงสัย
หากใจตั้งหวังจิตคิดตั้งใจ ทำสิ่งใดก็สมอารมณ์ปอง
ก้มลงกราบสามครั้งด้วยหวังว่า สิ่งรอท่าสำเร็จมิหม่นหมอง
ลุกขึ้นยืนโล่งใจไปเป็นกอง มิเป็นสองตั้งใจในเร็วพลัน

เพียงพ้นผ่านประตูสู่พระธาตุ สายตากวาดหลากเหล่าอรหันต์
หกสิบรูปนั่งเรียงใกล้เคียงกัน ลดหลั่นบนฐานห้าชั้นรอง

แต่ละองค์หน้าตักยี่สิบเก้า ขนาดเท่าคนจริงมิเป็นสอง
ทองเหลืองหล่อรมดำทาน้ำทอง นิพพานครองแห่งองค์ศาสดา

ขึ้นบันไดไปอีกสิบหกขั้น โปกปูนปั้นวิจิตรตระการตา
แดงเหลืองทองตัดแต่งแสร้งวรรณนา เสกสรรมาให้เห็นเช่นนิทาน

จิตกรรมผนังหวังสืบสาว สู่เรื่องราวอดีตพุทธกาล
บรรจงแต่งต่อเติมเสริมประสาน ดุจนิทานเรื่องราวเล่าสืบมา
แต่อดีตโบราณครั้นกระโน้น สุดไกลโพ้นดุสิตกลางเวลา
ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมา ตั้งจิตตานิมิตอธิษฐาน
หวังกำเนิดเกิดในมนุษย์โลก ลายเศร้าโศกจากวัฏสงสาร
สิ่งเวียนว่าตายเกิดนานแสนนาน ด้วยพบพานถ้วนทั่วทุกตัวคน
พระนางสิริมหามายา พระมารดานิมิตหาเหตุผล
มีช้างเผือกตัวขาวมายินยล ปรากฏตนให้เห็นยามนิทรา
ลักษณะสวยล้ำช่างงามยิ่ง เครื่องทรงสิ่งประดับนับล้ำค่า
ล้วนเครื่องทรงกษัตริย์ขัตติยา คลานเข้ามาขึ้นตักแสดงตน
ขอเป็นลูกผูกพันกับมารดา พระมายาลูบคลำสุขใจล้น
ด้วยอำนาจแห่งรักปักกมล ได้ยินยลร้องเรียกพระมารดา
พระสุทโธทนะมหาราช เชิญนักปราชญ์เหล่าพราหมณ์มาปรึกษา
เพื่อทำนายนิมิตพระชายา อยากรู้ว่าเหตุเห็นเป็นอย่างไร
นิมิตเป็นกำลังของไตรเพท ด้วยแห่งเหตุผ่านฟ้ามาอาศัย
จุติในพระครรภ์ด้วยมั่นใจ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟ้ามาลงครรภ์
ไปภายหน้าเป็นศาสดาเอก ตามตัวเลขทำนายใช้หุนหัน
ตรัสรู้แจ้งแล้วทุกสิ่งอัน สุขโศกศัลย์รู้ซึ้งความเป็นไป
แม้ครองราชได้เป็นจักรพรรดิ จอมกษัตริย์ของโลกผู้ยิ่งใหญ่
คำทำนายปวดเร้าเศร้าหทัย ตรึงทรวงในดวงจิตพระบิดา
ตามทำเนียมของพราหมณ์แต่ปางก่อน จะคลอดบุตรต้องย้อนสู่เคหา
ฝังรกรากฝากอู่สู่ชายคา จึงทูลลาพระราชสวามี
นิวัตน์ถึงกึ่งทางกลางป่าสุด พระราชอุทยานลุมพินี
ต้นสาละโน้มกิ่งลงได้ที่ พระเทวีประชวรป่วนในอก

พอใกล้รุ่งวันศุกร์ขึ้นสิบห้า จุติมาปีจอตรงเดือนหก
ราชโอรสองค์น้อยคล้อยจากรก พระชนกทรงพระสูติกาล
ต่างสำเนียงเรียกกันสิทธัตถะ ผู้ชนะสำเร็จเสร็จประสาน
แม้แต่องค์มุ่งหมายชนะมาร สืบสันดารมนุษย์ปุถุชน
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาคือหาคู่ ให้มาอยู่ร่วมห้องต้องขุมขน
สืบทาญาติชาติเผ่าเหล่าฝูงตน ความเป็นคนเหล่าตนให้มากมี
ทรงสบายไร้ทุกข์มิหม่นหมอง คอยประคองร่างสาวดรุณศรี
ที่ยั่วเย้าเคล้ากายให้ยินดี ให้ทรงมีความสุขทุกคืนวัน

เหวยฉันนะพาเราออกวังหน่อย เราอยากค่อยไปดูแสงสีสรร
เสียงนางในเล่าสู่กันและกัน เราอยากหันไปดูให้รู้จริง

หนุ่มนายนั้นหมายปองด้วยต้องรัก เฝ้าฟูมฟักเอาใจใคร่แม่หญิง
ด้วยหวังได้แม่นางมาแอบอิง ทำทุกสิ่งหมายสาวให้เข้าใจ
มันมิง่ายอย่างองค์พระทรงลักษณ์ มิทรงหักก็อ้ามาอาศัย
อยากอิงแอบแนบอยู่ในทันใด มันมิง่ายจริงจริงเยี่ยงนี้หรือ
เมื่อมีคู่อยู่สองประคองรัก เหมือนสลักปังไว้มิให้ฮือ
คอยรับใช้แน่วแน่แค่ใกล้มือ มิดึงดื้อนอกใจใคร่อื่นปอง
ผิดกับเราเหล่านางต่างมากมี คอยเซ้าซี้เสียดสีให้สมสอง
คอยประโลมลูบไล้ใคร่เมียงมอง อบจับต้องให้เสียวในฤดี
จะร่วมรักร่วมรสกับสาวใด เราก็ได้สมปองมิหมองศรี
มิต้องเรียกให้เหนื่อยเมื่อยวจี เป็นอย่างนี้นี่หรือปุถุชน

หมู่คนนั้นเขาทำอะไรหรือ มายึดถือเข้าของให้คนขน
เล่นอะไรมิเห็นเคยยินยล มันน่าสนใคร่รู้ช่วยบอกเรา
หมู่คนนั้นกำลังนั่งขายของ ส่วนคนมองใคร่ซื้อเป็นของเขา
อยากได้ของต้องหาอัฐแลกเรา เด็กวัยเยาว์ต้องช่วยด้วยเต็มมือ
กว่าจะได้ทรัพย์มาสักรูปี มันช่างยากเยี่ยงนี้จริงเชียงหรือ
ต้องแลกเหงื่อต่างน้ำทำกับมือ ใช่จะถือเอาสิทธิ์ตามพึงใจ

เด็กน้อยนั้นทำไมมิห่มผ้า ทรัพย์ที่หาได้มาพออาศัย
พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้ปลอดภัย ละสิ่งใดได้ต้องประคองตัว
เมื่อมีลูกต้องเลี้ยงตระนั้นหรือ ดูสิถือแล้วต้องประคองหัว
คอยอิงแอบแนบชิดติดกับตัว หรือว่ากลัวใครแย่งแกล้งกระทำ
เมื่อหญิงชายอยู่กันร่วมสังวาส กำหนดชาติล้ำลึกสุดถลำ
ก่อกำเนิดเกิดก่อหน่อเนื้อนำ สุดลึกล้ำเกิดกายให้เลี้ยงดู
อยู่ในท้องเก้าเดือนเตือนแตะแม่ สุขใจแท้แม้เจ็บมิอดสู
เฝ้าประคองโลมลูบด้วยเอ็นดู รักจึงสู้ทนเจ็บเหน็บเหนื่อยกาย
อยู่ในท้องเก้าเดือนตระนั้นหรือ แม่ต้องถืออย่างนั้นน่าใจหาย
คงเมื่อยขบแปลบแปลบเจ็บแทบตาย คงมิหายกว่าคลอดลูกปลอดภัย
ตอนคลอดหรือก็เจ็บแทบตายจาก ช่องคลอดปากเปิดอ้าพออาศัย
เนื้อฉีกขาดบาดเจ็บแทบขาดใจ กว่าหัวโผล่มาได้ให้หมอดึง
บ้างต้องใช้คมไผ่ตัดให้ขาด เลือดซัดสาดกายสั่นกลั้นใจถึง
ปวดแสนปวดรวดร้าวร้องอื้ออึง กว่าจะดึงให้ผ่านสั่นทั้งกาย
พอคลอดสุดหลุดออกมานอกรก เลือดในอกพร้อมสั่งหลั่งเป็นสาย
เพียงเห็นหน้าลูกน้อยก้อยใจกลาย ความเจ็บหายลืมสิ้นอัศจรรย์
ความรักของแม่ที่มีต่อลูก ความพันผูกเกินคำนำเสกสรร
แม้ร้อยเรียงเลิศล้ำมาจำนรรจ์ มิเท่าทันรักแท้จากแม่เลย

แล้วทำไมยายนี้แก่อย่างนั้น หรือดึงดันปล่อยตัวมัวนิ่งเฉย
หรือแกล้งทำยวนยั่วมิกลัวเชย หรืออยากเผยความจริงสิ่งน่าอาย
ร่างกำยำล้ำสันในวันนี้ อีกกี่ปีก็เริ่มเสื่อมสลาย
อีกนานไปคงแก่เช่นคุณยาย เจ็บแล้วตายถ้วนทั่วทุกตัวไป
สรรพสิ่งทั้งหลายในหล้าโลก สุขกับโศกคู่กันมิสงสัย
เมื่อได้พบได้รักแล้วจากไป เกิดแก่ตายนิมิตอนิจจัง
เมื่อกำเนิดเกิดมาในล่าโลก ต้องพบโศกสุขทุกข์มิเหหัน
ละสิ่งหนึ่งเสียได้ไม่ผูกพัน แล้วสิ่งนั้นอะไรใคร่รู้จริง
คอยตรองตรึกนึกหวั่นพรพร่านดวงจิต คอยครุ่นคิดเหม่อลอยมิสุงสิง
ความเศร้าหมองต้องกายให้ประวิง เฝ้านั่งนิ่งพินิจจิตตรอมตรม
ตื่นขึ้นมากลางดึกนึกประหวั่น นางกำนัลเปลื้องกายไม่เหมาะสม
เสียงกรนดังน้ำลายย้อยถึงนม ให้ระบมปลงจิตคิดละองค์
เหวยฉันนะเอาม้ากันทกะ กูจะละตามหาสิ่งประสงค์
ด้วยแน่วแน่ในจิตให้คิดปลง รับเครื่องทรงภูษามาลาคืน
อีกหลากหลายภาพเขียนที่เวียนดู เหมือนจงใจให้รู้มิต้องฝืน
ถ่ายภาพมาหลากหลายลุกนั่งยืน หลับหรือตื่นคงติดอนิจจัง
สิ่งทั้งหลายในโลกไม่มีเที่ยง ล้วนตายเกลี้ยงไม่เหลือให้ถูกขัง
กรรมเคยก่อสร้างไว้เราจึงยัง เพราะกรรมบังจึงเป็นเช่นนิยาย
อย่าเสียใจที่จนหรือค้นแค้น สิ่งที่เด่นเรามีอีกเหลือหลาย
สร้างกรรมดีเอาไว้ก่อนวันตาย จะขวนขวายละโมบโลภไปใย
ยามเราเกิดออกมาตัวเปล่าเปล่า ตัวของเราของเราเสียที่ไหน
ของพ่อแม่ที่สร้างทั้งกายใจ อย่าหลงไหลล่วงล้ำกฎกรรมเกณฑ์
ฉันกราบลงสามครั้งหลังเวียนรอบ ด้วยมั่นใจในขอบแห่งกรรมเวร
ทำสิ่งใดเอาไว้ใจโอนเอน เคยบวชเณรยังจำอนิจจัง
ฉันก้าวลงบันไดใจจ่อจด เหมือนได้คดข้าวห่อรอความหวัง
ด้วยใจมั่นกำเนิดเกิดพลัง เหงื่อเริ่มหลั่งด้วยแดดแผดร้อนมา

เสียใจนิดชั้นสองเขาป้องปิด แนบสนิทกุญแจเสียแล้วหนา
คงมิเห็นพระธาตุเหมือนก่อนมา ด้วยเหตุว่าหนุ่มสาวเล้าโลมกัน
หากจะกล่าวสักนิดจะผิดหรือ จะยึดถือคนอื่นมาลงขัน
แค่หนุ่มสาวคู่เดียวมาเกี้ยวกัน คนนับพันไม่ผิดอย่าปิดเลย
พระธาตุคือที่สุดที่อยากชม ใช่คารมลมผ่านไปเฉยเฉย
ปิดป้ายซิห้ามชมเหมือนเช่นเคย จะมีใครไหนเลยมาเยี่ยมชม
ฉันก้าวเท้าย่างไปตามใจสั่ง เป้าหมายยังที่เห็นแม้ขื่นขม
ทิ้งความหลังตั้งไว้มิตรองตรม กับคารมคนกล่าวก้าวออกมา

โพธิสัตว์กวนอิมลงมาโปรด ตรัสอย่าโทษตัวเองนักเลยหนา
พักตร์เอิบอิ่มปริ่มด้วยพระเมตตา แสแสร้งว่าพระสวดอวดคารม

น้ำพระพักตร์พระทัยบริสุทธิ์ ฉันยืนหยุดนิ่งคิดจิตสุขสม
เทพชั้นฟ้าหรือว่าองค์อินทร์พรหม ยิ่งนิยมใต้หล้าบารมี
โพธิสัตว์นั้นสูงยี่สิบเมตร ปางเสด็จห้ามมารญาณสุขี
บารมีปกป้องปฐพี ให้ยินดีปรีดาที่มาเยือน
อักษรจีนเขียนไว้อ่านไม่ออก เหมือนหนามยอกตำใจคอยเชือดเชือน
สวยแต่รูปหมิ่นแหม่ให้ลางเลือน เหมือนไม่เหมือนอ่านแปลถ้าแน่จริง
ก่อนจะจากพรากไปในวันนั้น หลับตาฝันวันใหม่ใจแน่นิ่ง
เมื่อไหร่หนอได้แอบมาแนบอิง มาพักพิงอีกครั้งตั้งตารอ
ฉันเดินจ้องกล้องส่องต้องภาพสวย มิงงงวยรอใครมานั่งขอ
ที่ถ่ายไว้ใช่หวังคำเยินยอ เอาแค่พอพึงใจกดไว้เลย.
ฉันครุ่นคิดเจ็บอกวิตกกลุ้ม เหมือนไฟสุมเผาใจหอกแทงเสย
เที่ยวถามไถ่ใครเขาเปล่าเหมือนเคย ต่างเมินเฉยบอกฉันอ่านไม่เป็น
สี่เดือนผ่านที่ฉันยังกลุ้มจิต มิอยากคิดยิ่งคิดจิตกระเซ็น
โรงเรียนจีนศาลเจ้าก็เป็นเย็น ยิ่งคิดเห็นปวดหัวตัวร้อนรณ
สิ่งสื่อสารทางสื่ออินเตอร์เน็ต มิใช่เท็จกลับกลายเป็นล่องหน
พจนานุกรมจีนไทยปน ก็เหลือทนยากยิ่งเหมือนลิงตี
อธิษฐานบนบานผ่านคำกล่าว เชื่อไหมเล่าสื่อสารบานวิถี
ใครคนหนึ่งบอกเล่าแสนยินดี ชื่อเขามีแต่ฉันอ่านไม่เป็น
แอลเอโอ ดีเอ คงเป็นชื่อ เขียนหนังสือส่งมาเท่าที่เห็น
ที่สิบสี่สิงห้าตอนเย็นเย็น เขายังเน้นเรียงผิดใช่ทึกทัก
แถมบทสวดให้ฉันหายโมโห ชื่อ นำ โม กวง สี่ อิม ผู่ สัก
ชักสนใจอ่านแปลแน่ยิ่งนัก ชักนึกรักคนส่งเสียแล้วซี
..................................................................
บทสวดมนต์ขอพร เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (นำ โม กวง สี่ อิม ผู่ สัก)
นำโมไต่ชื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำกวงซี้อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโมไต่ชื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำกวงซี้อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโมไต่ชื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำกวงซี้อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโมฮุก นำโมฮวบ นำโมเจง นำโมกิ๊ว โค่วกิ๊วหลั่ง กวนซี้อิมผ่อสัก ทั่งจี้โต
โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวด
โตซ้ำผ่อออเทียง หล่อซิ้ง ตี๋หล่อซิ้ง นั้งหลี่หลั่ง หลั่งหลี่ซิง
เจ็กเฉียกใจเอียง ห่วยอุ่ยติ้ง นำมอมอออ ปอเยปอหล่อบิ๊ก( กราบ )
ใจความสำคัญของมนต์ขอพร พระแม่กวนอิม
ขอนอบน้อม พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ พระผู้เปี่ยมล้นด้วยมหาเมตตา มหากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาล
ขอได้โปรดบำบัดทุกข์โศก โรคภัยอันตรายทั้งปวงข้าพเจ้าขอน้อมถึง พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ
สังฆานุภาพ พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ ขอได้โปรดขจัดปัดเป่าทุกข์ โศกโรค ภัยทั้งปวงให้
หมด สิ้นไป ขอความสุข สมปรารถนาทุกประการ จงมีแด่ข้าพเจ้า
ขอเทพเจ้าเบื้องบนและเทพเจ้าเบื้องล่างทั้งหมด
ได้โปรดปัดเป่าให้เวรกรรมและสรรพเคราะห์ทั้งมวลจงหมดสิ้นไป
ท่านผู้ใจบุญท่านใดสามารถนำไปสวดขอพรพระแม่กวนอิมได้ ขออนุโมทนาสาธุด้วย
ขอกราบขอบพระคุณคุณ lao da ด้วยความเคารพอย่างสูง
ขอขอบพระคุณผู้ให้ข้อมูล


คุณครูปราณี รอบคอบ และคุณครูม้วน รอบคอบ
เด็กนิโคร
wnikro@gmail.com

เด็กนิโคร


ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
พูดจริงทำจริง,ยึดมั่นในคำสอนของพ่อ(นายเต็ก ธนการ)ที่ว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน",เชื่อมั่นในกฏแห่งกรรม "คนทำดีต้องได้ดี..คนทำชั่วต้องได้รับผลกรรมแห่งการกระทำ",ไม่ชอบการโกหกและการลักขโมย